เมนู

เถรคาถา เอกนิบาต วรรคที่ 4


1. คหวรตีริยเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระคหวรตีริยเถระ


[168] ได้ยินว่า พระคหวรตีริยเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
บุคคล ถูกยุง และเหลือบกัดแล้ว ในป่าใหญ่
พึงเป็นผู้มีสติ อดทนต่อสัมผัสแห่งยุง และเหลือบ
ในป่าใหญ่นั้น เหมือนช้างอดทนต่อการถูกอาวุธใน
สงคราม ฉะนั้น.

วรรควรรณนาที่ 4
อรรถกถาคหวรตีริยเถรคาถา


คาถาของพระคหวรตีริยเถระเริ่มต้นว่า ผฺฏโฐ ฑํเสติ. เรื่องราว
เป็นอย่างไร.
ได้ยินว่า ท่านมีอธิการอันกระทำไว้แล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า สิขี ในกัปที่ 31 แต่
ภัทรกัปนี้ (เกิด) เป็นนายพรานเนื้อ เที่ยวไปในป่าได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงพระนามว่า สิขี ทรงแสดงธรรมแก่เทวดา นาค และยักษ์ทั้งหลายที่โคน
ต้นไม้แห่งใดแห่งหนึ่ง. ก็ครั้นเห็นแล้ว ก็มีจิตเลื่อมใส ได้ถือเอานิมิตใน
เสียงว่า ธรรมนี้อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอยู่ ด้วยการที่มีจิตเลื่อมใสนั้น
ท่านเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไปๆ มา ๆ อยู่ในสุคติภพนั่นแหละอีก แล้วเกิด
ในตระกลพราหมณ์ ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้นามว่า
อัคคิทัตตะ เจริญวัยแล้ว เห็นยมกปาฏิหาริย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เกิด
ความเลื่อมใส บวชในพระศาสนา เรียนกรรมฐาน อยู่ในราวป่า ชื่อว่า
" คหวรตีระ" ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงได้นามว่า " คหวรตีริยะ."
ท่านเจริญวิปัสสนาแล้ว บรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก. สมดัง
คาถาประพันธ์ ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า
เมื่อก่อน เราเป็นพรานเนื้อ เที่ยวอยู่ในป่าอัน
สงัดเงียบ ได้พบพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี อัน
หมู่เทวดาห้อมล้อม กำลังทรงประกาศสัจจะ 4 ทรง